วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล เฟร้นช์ คัพ ล็องส์ -vs- เอปินัล




วิเคราะห์บอล เฟร้นช์ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ล็องส์ (ลีก เดอซ์, 10) -vs- เอปินัล (เนชั่นแนล ด.3, 19)



เวลา : 02.50 น.
สนาม : สต๊าด โบลแลร์ต เดอเลอลิส
ราคาบอล : ล็องส์ ต่อ หนึ่งลูกลบสิบ

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

- พบกันเป็นครั้งแรก

ฟอร์ม 5 นัดล่าสุดในรายการนี้

ล็องส์
24/01/13 ชนะ บอร์กเดอเล่ส์        3-0 (เยือน)
06/01/13 ชนะ แรนส์        2-1 (เหย้า)
09/12/12 ชนะ อาร์กมองติเร่ส์    6-0 (เยือน)
18/11/12 ชนะ เลส์ ลิล่าส์        3-0 (เหย้า)
19/11/11 เสมอ ซานนัวส์ แซงต์ กราเตียง    1-1 (เยือน) ล็องส์แพ้ต่อเวลา 1-2

เอปินัล
23/01/13 เสมอ น็องต์    1-1 (เหย้า) เอปินัลชนะจุดโทษ
06/01/13 เสมอ ลียง    3-3 (เหย้า) เอปินัลชนะจุดโทษ
15/12/12 ชนะ แซงต์ หลุยส์    3-1 (เยือน)
18/11/12 ชนะ โมเดนไฮม์    3-2 (เยือน)
21/11/10 แพ้ ดร็องซี่    0-1 (เหย้า)

ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด

ล็องส์
26/02/13 แพ้ โมนาโก    1-2 (เยือน) รอง 0.75 ... เสียครึ่ง
16/02/13 ชนะ ชาโต้รูซ์    4-3 (เหย้า) ต่อ 0.75 ... บวกครึ่ง
12/02/13 แพ้ อองเช่ร์    2-3 (เยือน) รอง 0.5 ... เสีย    
02/02/13 ชนะ อฌักซิโอ้    2-0 (เหย้า) ต่อ 0.75 ... บวก
29/01/13 แพ้ ติฌง    1-2 (เยือน) เสมอ ... เสีย
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก - แข่ง 13 ชนะ 5 เสมอ 6 แพ้ 2 ได้ 16 เสีย 16 มี 21 คะแนน

เอปินัล
24/02/13 แพ้ วานส์    0-2 (เยือน) รอง 1 ... เสีย
10/02/13 เสมอ เชอร์บูร์ก    2-2 (เยือน) รอง 0.5 ... บวก
06/02/13 แพ้ บูร์ก เปร็องส์    1-2 (เยือน) รอง 0.5 ... เสีย
27/01/13 แพ้ บาสเตีย    1-2 (เยือน) รอง 0.75 ... เสียครึ่ง
13/01/13 เสมอ น็องต์    1-1 (เหย้า) เฟร้นช์ คัพ / รอง 0.5 ... บวก
ฟอร์มเกมเยือนในลีก - แข่ง 12 ชนะ 1 เสมอ 4 แพ้ 7 ได้ 13 เสีย 22 มี 7 คะแนน

สภาพความพร้อมล่าสุด

    เอริค ซิโกร่า เทรนเนอร์ ล็องส์ กางโผ 18 ขุนพลชุดที่จะลงดวล เอปินัล จอมเซอร์ไพรส์จากระดับดิวิชั่น 3 ออกมาล่วงหน้าก่อนการแข่งขัน 1 วัน โดยแมตช์นี้ความพร้อมของตัวแทนจาก ลีก เดอซ์ ค่อนข้างลงตัว เพราะมีเพียงปราการหลัง ซาคาร์ย่า เบิร์กดิช (13 นัด/1 ประตู) รายเดียวเท่านั้นที่ตกสำรวจไปเพราะปัญหาบาดเจ็บ

    ส่วนแนวรับคีย์แมน โยฮัน เดอมองต์ (24 นัด) กับคู่มิดฟิลด์ ปิแอร์ ดูกอส (12 นัด) กับ อดาม่า เดียคิเต้ (8 นัด) ถูกหั่นชื่อออกตามนโยบายหมุนเวียนขุมกำลังบางส่วนของตัวกุนซือ แต่สองอาวุธหนักบนแผงรุกทั้ง ปิแอร์ริค วัลดิเวีย (10 ประตู) กับ โยอันน์ ตุซการ์ (8 ประตู) ยังพร้อมลงข่มขวัญผู้มาเยือนตามปกติ

    ทางด้านม้านอกสายตาอย่าง เอปินัล นำทัพมาโดยเทรนเนอร์ ฟาเบียง ทิสโซ่ต์ ซึ่งแมตช์นี้ตัวแทนจากดิวิชั่น 3 เตรียมลุยด้วยขุมกำลังชุดที่ดีที่สุด เพราะไม่ีมีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบนค้างมาจากรอบก่อนแม้แต่รายเดียว โดยจุดแข็งของ เอปินัล คือ แผงมิดฟิลด์ที่สอดขึ้นมายิงประตูได้ดีและมีสถิติการลั่นสกอร์เหนือกว่าบรรดาศูนย์หน้าในทีมด้วยซ้ำ

    โรแมง ชูโลร์ (5 ประตู), อบาก้า มองกอง (3 ประตู), เซบาสเตียง เชเร่ (2 ประตู) และ โยฮัน ดูฟูร์ (2 ประตู) เป็นเหล่าคีย์แมนของแดนกลางชุดนี้ ส่วนแผงรุกของทีมเยือนปีนี้อัตราความแม่นยำในการจบสกอร์ต่ำมาก เพราะทั้ง ตริสตัน โด, โกบา ซัคป้าและ อลาสซาน ดิโอมองเด้ เพิ่งผลัดกันยิงได้คนละเม็ดเท่านั้นทั้ง ๆ ที่แต่ละรายนั้นลงสนามให้ทีมมาเกินกว่าสิบเกม


วิเคราะห์ทางรวย

    เอปินัลเอาตัวรอดมาถึงรอบนี้ได้เพราะอาศัยลูกฮึดจากการเล่นในบ้านช่วยเสริมแรง โดยสองด่านก่อนหน้านี้เสียงเชียร์ที่ สต๊าด เดอ ลา โกลองบิเอเร่ ผลักดันให้ม้ามืดจากดิวิชั่น 3 ตีตั๋วผ่าน ลียงและ น็องต์ ได้แบบพลิกล๊อค แต่มาถึงรอบนี้ดูเหมือนการลุ้นของ เอปินัล ส่อแววถึงทางตัน เมื่อต้องบุกมาเยือนรังจอมเซอร์ไพรส์รุ่นพี่อย่าง ล็องส์ ที่ปีนี้ผลงานบอลถ้วยไม่ธรรมดาเช่นกัน

    สิ่งที่น่าห่วงคือนี่เป็นครั้งแรกที่ เอปินัล ต้องเผชิญหน้าทีมใหญ่โดยไม่มีปัจจัยเรื่องสภาพแวดล้อมและเสียงเชียร์คอยหนุนหลัง ซ้ำร้ายคิวหวดบอลถ้วยคราวนี้ดันมาบรรจบเอาตอนที่ฟอร์มของพวกเขากำลังแย่และมีปัญหาเรื่องการหนีตายในลีกมาให้พะวงเพิ่ม ทำให้กระแสความได้เปรียบนั้นพัดไปเข้าทาง ล็องส์ เต็มๆและตัวแทนจาก ลีก เดอซ์ น่าจะอาศัยทางบอลที่เป็นต่อผนวกกับจุดแข็งยามเฝ้ารังจัดการยุติบทบาทจอมพลิกล๊อคของทีมเยือนไว้เพียงรอบนี้

เดิมพันน่าสนใจ : "ต่อ ล็องส์ หนึ่งลูก"

ผลบอลที่คาด : ล็องส์ส่องดิ้น 3-1



วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล เอฟเอ คัพ : มิดเดิ้ลสโบรช์ -vs- เชลซี




วิเคราะห์บอล เอฟเอ คัพ รอบ 5

มิดเดิ้ลสโบรช์ (7,แชมเปี้ยนชิพ) -vs- เชลซี (4,พรีเมียร์ลีก) 



เวลา : 02.45 น.
สนาม : ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม
ราคาบอล : เชลซี ต่อ ลูกควบลูกครึ่งลบสิบ


ผลการพบกันของทั้งสองทีม

29/01/09 เชลซี ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-0
18/10/08 มิดเดิ้ลสโบรช์ แพ้ เชลซี 0-5
30/03/08 เชลซี ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-0
20/10/07 มิดเดิ้ลสโบรช์ แพ้ เชลซี 0-2
10/02/07 เชลซี ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 3-0
24/08/06 มิดเดิ้ลสโบรช์ ชนะ เชลซี 2-1
11/02/06 มิดเดิ้ลสโบรช์ ชนะ เชลซี 3-0
03/12/05 เชลซี ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-0
05/01/05 เชลซี ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-0


ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด

มิดเดิ้ลสโบรช์
24/02/13 แพ้ มิลล์วอลล์ 1-2 เหย้า / ต่อ 0.25 ... เสีย
20/02/13 เสมอ เบิร์นลี่ย์ 0-0 เยือน / รอง 0.5 ... บวก
16/02/13 แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-4 เยือน / รอง 0.5 ... เสีย
13/02/13 ชนะ ลีดส์ 1-0 เหย้า / ต่อ 0.5 ... บวก
09/02/13 แพ้ บาร์นสลี่ย์ 2-3 เหย้า / ต่อ 0.75 ... เสีย


เชลซี
24/02/13 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-2 เยือน / รอง 0.5 ... เสีย
22/02/13 เสมอ สปาร์ตา ปราก 1-1 เหย้า ยูโรป้า ลีก / ต่อ 1.5 ... เสีย
17/02/13 ชนะ เบร็นท์ฟอร์ด 4-0 เอฟเอ คัพ เหย้า / ต่อ 0.5 ... บวก
15/02/13 ชนะ สปาร์ต้า ปราก 1-0 เยือน / ต่อ 1.5 ... บวก
09/02/13 ชนะ วีแกน 4-1 เหย้า / ต่อ 1.5 ... บวก


ผลงานในเอฟเอ คัพ 5 นัดหลัง

มิดเดิ้ลสโบรช์
26/01/13 ชนะ อัลเดอร์ช็อต 2-1 เหย้า
05/01/13 ชนะ แฮสติงส์ 4-1 เหย้า

09/02/12 เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 (แพ้ต่อเวลา 1-2)
29/01/12 เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 เยือน

07/01/12 ชนะ ชรูว์สบิวรี่ 1-0 เหย้า


เชลซี
17/02/13 ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 4-0 เหย้า
27/01/13 เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 2-2 เยือน
05/01/13 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 5-1 เยือน
05/05/12 ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 เหย้า
16/04/12 ชนะ สเปอร์ส 5-1 กลาง


สถิติที่น่าสนใจ

 * เชลซี เอาชนะโบโร่ได้ทั้งหมด 53 ครั้ง แพ้ 31 ครั้ง จากการพบกันตลอด 113 เกม
 * เชลซี ไม่แพ้ใครในรายการนี้มา 26 เกมติดต่อกัน (ชนะ 21 เสมอ 5) และพ่ายไปเพียงครั้งเดียวตลอด 37 เกมหลัง (นับเฉพาะใน 90 นาที)
 * หาก "สิงห์แดง" ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ จะกลายเป็นการทะลุสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในรอบ 4 ปีเท่านั้น


สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

     โทนี่ โมวเบรย์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน 3 ผู้เล่นอย่าง จอช แม็คอีชแรน (30 นัด), คีรอน ดายเออร์ (4 นัด) และ แซมมี่ อเมโอบี้ () โดยรายแรกนั้นติดกฏพาร์ทเนอร์ คลับ ส่วนสองรายหลังติดคัพ-ไท นอกจากนี้ สองแข้งเดี้ยงหน้าเดิมทั้ง โจนาธาน วู้ดเกต (18 นัด/1 ประตู) และ ลูคัส ยุทคีวิชซ์ (22 นัด 8 ประตู) ก็ยังไม่พร้อมเป็นตัวเลือก โดยคาดว่าทั้งคู่น่าจะกลับมาได้ในเกมลีกสุดสัปดาห์ที่จะถึง ขณะที่ สจวร์ต พาร์นาบี (14 นัด), จัสติน ฮอยท์ (22 นัด 1 ประตู) และ ชูลิโอ อาร์ก้า (1 นัด) ยังกอดคอกันเจ็บต่อไป
     แกรี่ เคฮิลล์ ปราการหลังทีมชาตอังกฤษ โดนเชื้อไวรัสเล่นงาน แนวโน้มที่จะวืดช่วยทีมมีสูง เช่นเดียวกับแบ็กขวาสแปนิช เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ซึ่งขาเดี้ยง ไม่น่าจะอยู่ในข่ายพิจารณา อย่างไรก็ตาม คาดว่า ราฟาเอล เบนิเตซ คงจะหมุนเวียนผู้เล่นเยอะพอสมควร เพราะชั่วโมงนี้คิวเตะ "สิงห์บลูส์" ค่อนข้างชุก

     ส่งผลให้บรรดาตัวสำรองอย่าง ไรอัน เบอร์ทรานด์, มาร์โก มาริน, วิคเตอร์ โมเสส รวมทั้ง เฟร์นานโด ตอร์เรส มีลุ้นลงโชว์ฟอร์มในเกมนี้  แต่ที่จะไม่มีส่วนร่วมแน่นอนก็คือ ออริโอล โรเมอู กองกลางซึ่งปิดเทอมยาวทั้งซีซั่น ขณะที่ จอห์น เทอร์รี่ อนาคตยังคลุมเครือ หลังจากมีปากเสียงกับ "เอล บอส"


รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
 
     มิดเดิ้ลสโบรช์ (4-4-2) : เจสัน สตีล ; เซ็บ ไฮน์ส, เซบาสเตียน ไฮเนส, อองเดร บิเคย์, จอร์จ เฟรนด์ ; อดัม รีช, ฟาริส ฮารูน, แกรนท์ ลีดบิทเทอร์, นิค ไบลี่ย์ ; สกอตต์ แม็คโดนัลด์, อิสห์มาเอล มิลเลอร์

     เชลซี (4-2-3-1) : ปีเตอร์ เช็ก ; บรานิสาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, ดาวิด ลุยซ์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ ; จอห์น โอบิ มิเกล, ออสการ์ ; วิคเตอร์ โมเสส, ฆวน มาตา, มาร์โก มาริน ; เฟร์นานโด ตอร์เรส
  
วิเคราะห์

    เชลซี อาจจะอ่อนล้าในช่วงหลัง แต่พวกเขายังมีขุมกำลังสำรองซึ่งกำลังอัดอั้นบนม้านั่งข้างสนามลงบู๊ในวันนี้ ส่วน โบโร่ เครดิตไม่มีเลย ขนาดเจอกับทีมในระดับแชมเปี้ยนชิพด้วยกัน ยังแพ้แบบกราวรูด ประกอบกับปูมหลังเก่าๆก็เป็นรอง "สิงห์บลูส์" เยอะมาก โดย 5 ครั้งหลังที่เจอกัน เป็นทีมจากลอนดอนเอาชนะได้ทั้งหมด (ยิงได้ 13 ไม่เสียประตูเลย) ยิ่งชั่วโมงนี้มาตรฐานของทั้งคู่แตกต่างกันลิบลับ ความเหลื่อมล้ำจึงเอนมาทางฝั่งอาคัจตุกะมากขึ้นไปอีก และถ้วยเอฟเอ คัพ แทบจะเป็นโทรฟี่ใบสุดท้ายให้ เบนิเตซ ได้คว้ามาประดับบารมี ดังนั้นมองยังไง เชลซี น่าจะนอนมา เรท "ลูกควบ" ต่อไปก่อน ดูจากแนวโน้มน่าจะขาด

ผลบอลที่คาด : เชลซี บุกเฮ 2-0

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล โกปา เดล เรย์ : บาร์เซโลน่า -vs- เรอัล มาดริด



วิเคราะห์บอล โกปา เดล เรย์ 

บาร์เซโลน่า (ลา ลีกา, 1) -vs- เรอัล มาดริด (ลา ลีกา, 3)


 เวลา : 03.00 น.
สนาม : คัมป์ นู
ราคาบอล : บาร์เซโลน่า ต่อ ครึ่งควบลูก

การพบกันล่าสุด

31/01/13 เรอัล มาดริด เสมอ บาร์เซโลน่า 1-1 โกปา เดล เรย์
08/10/12 บาร์เซโลน่า เสมอ เรอัล มาดริด 2-2 ลา ลีกา
30/08/12 เรอัล มาดริด ชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 สแปนิช ซูเปอร์ คัพ
24/08/12 บาร์เซโลน่า ชนะ เรอัล มาดริด 3-2 สแปนิช ซูเปอร์ คัพ
22/04/12 บาร์เซโลน่า แพ้ เรอัล มาดริด  1-2 ลา ลีกา
26/01/12 บาร์เซโลน่า เสมอ เรอัล มาดริด 2-2 โกปา เดล เรย์
19/01/12 เรอัล มาดริด แพ้ บาร์เซโลน่า 1-2 โกปา เดล เรย์
11/12/11 เรอัล มาดริด แพ้ บาร์เซโลน่า 1-3 ลา ลีกา
18/08/11 บาร์เซโลน่า ชนะ เรอัล มาดริด 3-2 สแปนิช ซูเปอร์ คัพ
15/08/11 เรอัล มาดริด เสมอ บาร์เซโลน่า 2-2 สแปนิช ซูเปอร์ คัพ


ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้

บาร์เซโลน่า 31/01/13 เสมอ เรอัล มาดริด 1-1 (เยือน)
25/01/13 ชนะ มาลาก้า 4-2 (เหย้า)
17/01/13 เสมอ มาลาก้า 2-2 (เหย้า)11/01/13 ชนะ กอร์โดบา 5-0 (เหย้า)
13/12/12 ชนะ กอร์โดบา 2-0 (เยือน)


เรอัล มาดริด31/01/13 เสมอ บาร์เซโลน่า 1-1 (เหย้า)
24/01/13 เสมอ บาเลนเซีย 1-1 (เยือน)
16/01/13 ชนะ บาเลนเซีย 2-0 (เหย้า)
10/01/13 ชนะ เซลต้า บีโก้ 4-0 (เหย้า)
13/12/12 แพ้ เซลต้า บีโก้ 1-2 (เยือน)



ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

บาร์เซโลน่า

24/02/13 ชนะ เซบีย่า 2-1 (เหย้า) ต่อ 2 ... เสีย
21/02/13 แพ้ เอซี มิลาน 0-2 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 1.25 ... เสีย
17/02/13 ชนะ กรานาด้า 2-1 (เยือน) ต่อ 1.75 ... เสีย10/02/13 ชนะ เกตาเฟ่ 6-1 (เหย้า) ต่อ 2.75 ... ได้
04/02/13 เสมอ บาเลนเซีย 1-1 (เยือน) ต่อ 1.25 ... เสีย


เรอัล มาดริด
24/02/13 ชนะ ลา กอรุนญ่า 2-1 (เยือน) ต่อ 1.5 ... เสีย
18/02/13 ชนะ ราโย บาเยกาโน่ 2-0 (เหย้า) ต่อ 2 ... เจ๊า14/02/13 เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ ลีก / ต่อ 1 ... เสีย
10/02/13 ชนะ เซบีย่า 4-1 (เหย้า) ต่อ 1.5 ... ได้
03/02/13 แพ้ กรานาด้า 0-1 (เยือน) ต่อ 1.5 ... เสีย


สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม         
          ฆอร์ดี้ รูร่า ผู้ช่วยผู้จัดการทีม บาร์เซโลน่า สามารถพาทีมกลับมาเรียกความมั่นใจได้อีกครั้ง หลังจากพ่ายให้กับ
เอซี มิลาน ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเปิดรังบดเอาชนะ เซบีย่า โคตรทีมจากแคว้นอันดาลูเซียด้วยสกอร์ 2-1 ก่อนที่จะมาระเบิดศึก "เอล กลาซิโก้" หนที่ 223 (นับเฉพาะในแมตช์ที่เป็นทางการ) ใน โกปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศ เลกสอง ซึ่งยกแรกบุกไปคว้าอเวย์โกล์ ที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ติดไม้ติดมือมาได้ด้วยสกอร์ 1-1 ทำให้เกมนี้ผลเสมอ 0-0 ก็จะเพียงพอต่อการให้ บาร์ซ่า เข้ารอบชิงเป็นฤดูกาลที่สามติดต่อกัน

          โดยความพร้อมเกมนี้ บาร์ซ่า มีขุมกำลังที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เมื่อจะได้ตัว อาเดรียโน่ กอร์เรอา แบ็กชาวบราซิล สลัดคราบเดี้ยง ทว่า รูร่า ยังต้องชั่งใจว่าจะส่งตัววิงแบ็กแดนละตินติดทีมหรือไม่ ขณะที่ การ์เลส ปูโยล, ฆอร์ดี้ อัลบา, เซร์กิโอ บุสเกวตส์, ชาบี เอร์นานเดซ และ เปโดร โรดริเกวซ ที่ได้พักในสัปดาห์ล่าสุดจะกลับมาคืนตำแหน่งทั้งหมด ส่วน ลิโอเนล เมสซี่ ที่กำลังลุ้นดาวซัลโวตลอดกาลสำหรับศึก เอล กลาซิโก้ ต้องการอีกแค่ประตูเดียวก็จะเทียบชั้น อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ ดาวยิงระดับตำนานของ เรอัล มาดริด ที่กดไป 18 ลูก สำหรับโคตรแมตช์แดนกระทิงดุ

ตัวเจ็บ

กองหลัง : เอริค อบิดัล (-), มาร์ค มูเนียซ่า (-)


ตัวแบน : -

          ฟากทีมเยือน โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ เรอัล มาดริด ไม่ได้วิตกกังวลในศึกนี้แต่อย่างใด ถึงแม้ว่าจะเสียเปรียบเรื่องอเวย์โกล ทว่าจากสถิติในการมาเล่นที่แคว้นคาตาลัน ปรากฎว่า "ราชันชุดขาว" ของ จ่ามู มีค่าสถิติในการจบสกอร์อยู่ในระดับมาสเตอร์พีช หลังจากบุกมารัว บาร์ซ่า สองเม็ดยืนพื้นมาห้างวดติด ประกอบกับความพร้อม หากเทียบกับนัดแรก เรอัล มาดริด จะมีตัวหลักพ้นโทษแบนและสลัดคราบเดี้ยงกลับมาลงสนามเพิ่มขึ้นถึงสี่ราย (เซร์กิโอ รามอส, เปเป้, ฟาบิโอ โคเอนเตรา และ อังเกล ดิ มาเรีย)
          
          ขณะที่ ชาบี อลอนโซ่ และ คาริม เบนเซม่า หายเจ็บกลับมาชื่อติดทีมในทริปบุก อาซูลกราน่า โดยรายแรกน่าจะได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ส่วน เบนเซม่า น่าจะต้องหลีกทางให้กับ กอนซาโล อิกวาอิน ที่พึ่งฉลองการทำประตูครบ 100 ลูก ให้กับ เรอัล ที่ ริอาซอร์ จนพาพลพรรค "ลอส บลังกอส" บดเอาชนะ ลา กอรุนญ่า แบบหืดจับเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยสกอร์ 2-1 ส่วน ซามี เคดิร่า, เมซุต โอซิล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ได้พักจะคืนตำแหน่งทั้งหมด
ตัวเจ็บ ผู้รักษาประตู : อีเกร์ กาซิยาส (19 นัด)
ตัวแบน : -





ผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็น 11 ตัวจริง

บาร์เซโลน่า (4-3-3) : โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ - ดาเนียล อัลเวส, เกราร์ด ปีเก้, การ์เลส ปูโยล, ฆอร์ดี้ อัลบา - ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์กิโอ บุสเกวตส์, เชส ฟาเบรกาส - เปโดร โรดริเกวซ, ลิโอเนล เมสซี่, อันเดรส อีเนียสต้า

ผู้จัดการทีม : ฆอร์ดี้ รูร่า


เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : ดีเอโก้ โลเปซ - เซร์กิโอ รามอส, เปเป้, ราอูล อัลบิโอล, ฟาบิโอ โคเอนเตรา -ชาบี อลอนโซ่, ซามี เคดิร่า - อังเกล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - กอนซาโล่ อิกวาอิน


ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่

ทรรศนะ

        
          สำหรับศึก เอล กลาซิโก้ ต่อให้ บาร์เซโลน่า บุกไปชนะ เรอัล มาก่อนในเลกแรก 10-0 ก็เชื่อว่า "เจ้าบุญทุ่ม" ก็
ยังยืนยันในเจตนารมณ์ความเป็นยอดทีมแดนกระทิงดุด้วยการเปิดเกมรุกแลกหมัดกับอริตลอดกาลแบบถึงพริกถึงขิงโดยไม่คำนึงถึงความได้เปรียบเล็กๆน้อยๆที่ได้มาจากนัดแรกเหมือนเคย ซึ่งหากนาทีนี้แลกหมัดกันจริงๆ เป็น บาร์ซ่า ที่ดีกว่าพอสมควร

          แม้ว่าจะมีสะดุดในเกมกับ เอซี มิลาน ในรายการยุโรป แต่เท่าที่เห็นจากเกมกับ เซบีย่า ดูเหมือนผลการแข่งขันในเกมยุโรปจะไม่ได้ทำให้ บาร์ซ่า รวนหรือเป๋แต่อย่างใด ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเล่นในเกมของตัวเองเหมือนเดิม และเลกแรกที่เสียประตูให้กับ เรอัล ก็เพราะเสียสมาธิกันไปเอง ทว่ารูปเกมเหนือกว่าชัดเจนทั้งการคลองบอลและจังหวะลุ้นประตู ที่สำคัญ เรอัล ที่ยันอยู่ในยกแรกเพราะได้บรรยากาศสภาพแวดล้อมใน ซานติอาโก้ เบร์นาทเบว คุ้มกะลาหัวเอาไว้ ทว่ายกสองที่ คัมป์ นู ข้อดีในจุดนั้นหมดไป ถ้าเกมนี้ บาร์ซ่า นิ่งพอและสมาธิไม่หลุดเหมือนเกมที่เมืองหลวง ก็น่าจะทำให้เจ้าถิ่นยิ่งประตูตบเท้าเข้ารอบชิงชนะเลิศรายการนี้เป็นฤดูกาลที่สามติดต่อกันได้อย่างสะดวกโยธิน

ฟันธง 

 ต่อ บาร์เซโลน่า ชนะ 2-1, 3-1


วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล ลา ลีกา : แอต.มาดริด -vs- เอสปันญ่อล






 แอต.มาดริด -vs- เอสปันญ่อล



เวลา : 01.00 น.
สนาม : บิเซนเต้ กัลเดร่อน
ราคาบอล : แอต.มาดริด ต่อ ลูกควบลูกครึ่ง ลบสิบ





การพบกันล่าสุด

01/10/12 เอสปันญ่อล แพ้ แอต.มาดริด 0-1 ลา ลีกา
22/04/12 แอต.มาดริด ชนะ เอสปันญ่อล 3-1 ลา ลีกา
12/12/11 เอสปันญ่อล ชนะ แอต.มาดริด 4-2 ลา ลีกา
18/04/11 เอสปันญ่อล เสมอ แอต.มาดริด 2-2 ลา ลีกา
07/01/11 เอสปันญ่อล เสมอ แอต.มาดริด 1-1 ลา ลีกา
23/12/10 แอต.มาดริด ชนะ เอสปันญ่อล 1-0 โกปา เดล เรย์
28/11/10 แอต.มาดริด แพ้ เอสปันญ่อล 2-3 โกปา เดล เรย์
12/04/10 เอสปันญ่อล ชนะ แอต.มาดริด 3-0 ลา ลีกา
30/11/09 แอต.มาดริด ชนะ เอสปันญ่อล 4-0 ลา ลีกา
11/05/09 แอต.มาดริด ชนะ เอสปันญ่อล 3-2 ลา ลีกา


ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

แอตเลติโก มาดริด
22/02/13 ชนะ รูบิน คาซาน 1-0 (เยือน) ยูโรป้า ลีก / ใครต่อรอง ... ได้
18/02/13 ชนะ บายาโดลิด 3-0 (เยือน) ต่อ 0.5 ... ได้
15/02/13 แพ้ รูบิน คาซาน 0-2 (เหย้า) ยูโรป้า ลีก / ต่อ 1.25 ... เสีย
11/02/13 แพ้ ราโย บาเยกาโน่ 1-2 (เยือน) ต่อ ปป ... เสีย
04/02/13 ชนะ เรอัล เบติส 1-0 (เหย้า)
ต่อ 1.25 ... ได้ครึ่งฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 12 ชนะ 12 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 33 เสีย 6 ประตู


เอสปันญ่อล18/02/13 ชนะ เรอัล เบติส 1-0 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... ได้
11/02/13 ชนะ แอธ.บิลเบา 4-0 (เยือน) รอง 0.5 ... ได้
03/02/13 ชนะ เลบานเต้ 3-2 (เหย้า) ต่อ 0.5 ... ได้
27/01/13 เสมอ ซาราโกซ่า 0-0 (เยือน)
รอง ปป ... ได้ครึ่ง19/01/13 ชนะ มายอร์ก้า 3-2 (เหย้า) ต่อ ปป ... ได้


ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 11 ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 5 ได้ 12 เสีย 15 ประตู

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม         
          ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือ แอตเลติโก มาดริด เตรียมเปลี่ยนทีมจากนัดกลางสัปดาห์ที่บุกไปชนะ รูบิน คาซาน ที่ รัสเซีย 1-0 แบบยกชุด โดยจะเหลือแค่ ราดาเมล ฟัลเกา, มาริโอ ซัวเรซ และ เชา มิรานด้า ที่เล่นเต็มเวลาในแมตช์ดังกล่าวลงสนามเป็น 11 ตัวจริงในเกมนี้ เช่นเดียวกับ ดีเอโก้ โกดิน, ฆวนฟราน, ฟิลิเป้ ลูอิส, กาบี เฟร์นานเดซ, ติอาโก้ เมนเดส, อาร์ด้า ตูราน และ โคเก้ (6 ตัวจริง, 1 สำรอง) ที่โดนตัดชื่อออกจากทีมเนื่องจากเหตุผลทางแทคติก (ให้พัก) จะกลับมาลงสนามเหมือนเดิม

ตัวเจ็บ : -
ตัวแบน : -

          ฟากทีมเยือน เอสปันญ่อล ของกุนซือ ฮาเวียร์ อกีร์เร่ ยังโชว์ได้ร้อนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดบุกไปชนะ แอธ.บิลเบา ที่แคว้นบาสก์ ทำให้เก็บแต้มได้ 16 จาก 18 คะแนนหลังสุด อย่างไรก็ตามความพร้อมเกมนี้จะมีการปรับทีมสองตำแหน่ง เมื่อจะได้ตัว ฆวน ฟอร์ลิน มิดฟิลด์ตัวตัดเกมกลับมากจาโทษแบน และ ฆาบี โลเปซ แบ็กขวา ที่โดนดรอปเป็นสำรองในเกมล่าสุดออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริง ทำให้ ราอูล โรดริเกวซ และ เฟลิเป้ มัตติโอนี่ ตกไปนั่งสำรองเหมือนเดิม ขณะที่ วากาโซ่ มูบารัค ตัวริมเส้นชาวกาน่า จะโดนตัดชื่อออกจากทีม เนื่องจากเหตุผลทางแทคติกในเกมนี้
ตัวเจ็บ กองกลาง : ราอูล บาเอน่า (11 นัด, 1 ประตู)
ตัวแบน : -

ผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็น 11 ตัวจริง

แอต.มาดริด (4-4-2) : ธิบอต์ กูร์ตัวส์ - ฆวนฟราน, ดีเอโก้ โกดิน, เชา มิรานด้า, เฟลิเป้ ลูอิส - กาบี เฟร์นานเดซ  มาริโอ ซัวเรซ - โคเก้, อาร์ด้า ตูราน - ดีเอโก้ กอสต้า, ราดาเมล ฟัลเกา
ผู้จัดการทีม : ดีเอโก้ ซิเมโอเน่


เอสปันญ่อล (4-2-3-1) : ฟรานซิสโก้ กาซิญ่า - ฆาบี โลเปซ, ดีเอโก้ โกล็อตโต้, เฮคตอร์ โมเรโน่, โจน กัปเดบีล่า - บิคตอร์ ซานเชซ, ฆวน ฟอร์ลิน - คริสเตียน สตูอานี่, ฆวน เบร์ดู, ซิเมา ซาโบรซ่า - เซร์กิโอ การ์เซีย
ผู้จัดการทีม : ฮาเวียร์ อกีร์เร่



ทรรศนะ        
          สถิติคิวเฝ้ารังที่ชนะร้อยเปอร์เซนต์ตั้งแต่เปิดฤดูกาลของ แอต.มาดริด ส่อแววสั่นคลอน แม้ว่า ดีเอโก้ซิเมโอเน่ จะจัดการพักตัวหลักรายหลายในรายการ ยูโรป้า ลีก มาเน้นเกมในประเทศเป็นกรณีพิเศษ ทว่าสมาธิ ทีมตราหมี เอาเข้าจริงอาจจะไม่ได้อยู่ในเกมนี้ แต่พุ่งเป้าไปที่แมตช์กับ เซบีย่า ในช่วงสัปดาห์ (ที่จะถึง) ที่มีลุ้นคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ มากกว่า ทำให้งานของ เอสปันญ่อล น่าจะง่ายขึ้นเยอะ เพราะ เจ้านกแก้ว นาทีนี้กำลังมั่นใจสุดขีดหลังจากเก็บผลการแข่งขันตามต้องการได้ตลอดในรอบสองเดือนที่ผ่านมา เมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้ เอสปันญ่อล ถ้าจะแพ้ที่ บิเซนเต้ กัลเดร่อน ก็ไม่น่าถึงกับพ่ายเกินสองเม็ดแพ้ราคาอย่างแน่นอน วางรองไปดีกว่า


ฟันธง 

 รอง เอสปันญ่อล เสมอ 1-1, แพ้ 1-2





วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล ลา ลีกา : แอธเลติก บิลเบา (14) -vs- เรอัล โซเซียดาด (6)




แอธเลติก บิลเบา (14) -vs- เรอัล โซเซียดาด (6) 


เวลา : 03.30 น.
สนาม : ซาน มาเมส
ราคาบอล : แอธ.บิลเบา ต่อ ปป ลบสิบ


การพบกันล่าสุด

30/09/12 โซเซียดาด ชนะ แอธ.บิลเบา 2-0 ลา ลีกา
04/03/12 แอธ.บิลเบา ชนะ โซเซียดาด 2-0 ลา ลีกา
02/10/11 โซเซียดาด แพ้ แอธ.บิลเบา 1-2 ลา ลีกา
24/04/11 แอธ.บิลเบา ชนะ โซเซียดาด 2-1 ลา ลีกา
06/12/10 โซเซียดาด ชนะ แอธ.บิลเบา 2-0 ลา ลีกา
28/01/07 โซเซียดาด แพ้ แอธ.บิลเบา 0-2 ลา ลีกา
27/08/06 แอธ.บิลเบา เสมอ โซเซียดาด 1-1 ลา ลีกา
22/01/06 โซเซียดาด เสมอ แอธ.บิลเบา 3-3 ลา ลีกา
27/08/05 แอธ.บิลเบา ชนะ โซเซียดาด 3-0 ลา ลีกา
09/04/05 แอธ.บิลเบา ชนะ โซเซียดาด 3-0 ลา ลีกา


ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

แอธเลติก บิลเบา
17/02/13 แพ้ มาลาก้า 0-1 (เยือน) รอง 0.5 ... เสีย
11/02/13 แพ้ เอสปันญ่อล 0-4 (เหย้า) ต่อ 0.75 ... เสีย
02/02/13 เสมอ บายาโดลิด 2-2 (เยือน) รอง ปป ... ได้ครึ่ง28/01/13 ชนะ แอต.มาดริด 3-0 (เหย้า) รอง ปป ... ได้
22/01/13 เสมอ เรอัล เบติส 1-1 (เยือน) รอง 0.5 ... ได้
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 12 ชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 5 ได้ 15 เสีย 17 ประตู


เรอัล โซเซียดาด

17/02/13 เสมอ เลบานเต้ 1-1 (เหย้า) ต่อ 0.75 ... เสีย10/02/13 ชนะ ซาราโกซ่า 2-1 (เยือน) รอง เสมอ ... ได้
04/02/13 ชนะ มายอร์ก้า 3-0 (เหย้า) ต่อ 0.75 ... ได้
26/01/13 เสมอ เซลต้า บีโก้ 1-1 (เยือน) รอง ปป ... ได้ครึ่ง20/01/13 ชนะ บาร์เซโลน่า 3-2 (เหย้า) รอง 1.5 ... ได้
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 11 ชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 5 ได้ 17 เสีย 21 ประตู


สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม         
            มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เทรนเนอร์ แอธเลติก บิลเบา จะเปิดศึก "บาสก์ดาร์บี้" หรือศึกศักดิ์ศรีประจำแคว้นกับ โซ
เซียดาด ซึ่ง 8 ครั้งหลังที่ ซาน มาเมส เป็นเจ้าถิ่นที่ทำผลงานได้ดีมาตลอด ด้วยการเปิดรังเชือด "ชูรี่อูดิน" ได้ 7 หนและเสมอไปอีก 1 ครั้ง (ยิงได้ 17 เสีย 3 * บิลเบา ไม่เสียประตู 5 นัด)

           อย่างไรก็ตามความพร้อมเจ้าถิ่นยังต้องรอทดสอบความฟิตของ อีเกร์ มูเนียอิน ที่สลัดคราบเดี้ยงกลับมามีชื่อโผครั้งนี้ ขณะที่ การ์ลอส กูร์เปกี กับ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ยังเดี้ยงไม่หายไม่มีชื่อติดทีมไปตามระเบียบ ส่วน เฟร์นานโด อมอเรบิเอต้า กองหลัง ที่มีข่าวกับ อาร์เซน่อล โดนตัดชื่อออกจากทีมเมื่อวีคก่อนจะมามีชื่ออยู่ในศึกศักดิ์ศรีครั้งนี้

ตัวเจ็บ กองหลัง : การ์ลอส กูร์เปกี (18 นัด), บอร์ฆ่า เอคิซ่า (14 นัด), อินญิโก้ เปเรซ (5 นัด)
กองหน้า : เฟร์นานโด ยอเรนเต้ (13 นัด, 1 ประตู)

ตัวแบน : -

          ฟากทีมเยือน โซเซียดาด ของกุนซือ ฟิลิปป์ มงตานิเย่ร์ ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บและติดโทษแบนเพิ่มเติม และยังจะได้ตัว ดาบิด ซูรูตูซ่า (11 นัด, 1 ประตู) มิดฟิลด์ตัวหลักเมื่อซีซั่นก่อน สลัดคราบเดี้ยงกลับมาติดโผในเกมนี้ ขณะที่  กอร์ก้า อีลุสตอนโด้ (6 นัด) กองกลางตัวห้อง หายเจ็บกลับมาซ้อมได้ตามปกติ ทว่าจะโดนตัดชื่อออกจาทีมเนื่องจากเหตุผลทางแทคติด สวนทางกับ ดาเนี่ยล เอสตราด้า กองหลัง (13 นัด) ที่คัดชื่อออกในเกมกับ เลบานเต้ จะกลับมาเป็นตัวเลือกในแผงรับอีกครั้ง

ตัวเจ็บ กองหลัง : อังเกล โลเปซ (9 นัด), ยาซีน คาดามูโร่ (1 นัด)
ตัวแบน : -

ผู้เล่นที่คาดว่าจะเป็น 11 ตัวจริง

แอธ.บิลเบา (4-2-3-1) : กอร์ก้า อีไรซอซ - อันโดนี่ อิราโอล่า, อายเมริค ลาปอร์เต้, มิเกล ซาน โฆเซ่, โจน เออร์เตเน็ตเช่ - อันเดร์ อิตูร์ราสเป้, อันเดร เอร์เรร่า - มาร์เกล ซูซาเอต้า, ออสการ์ เด มาร์กอส, อีเกร์ มูเนียอิน - อาริทซ์ อาดูริซ
ผู้จัดการทีม : มาร์เซโล่ บิเอลซ่า


โซเซียดาด (4-2-3-1) : เคลาดิโอ บราโบ - การ์ลอส มาร์ติเนซ, มิเกล กอนซาเลซ, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, อัลเบร์โต้ เด ลา เบญ่า - มาร์เกล เบร์เกร่า, อาซิเอร์ อิญาร์ราเมนดี้ - อองตวน กรีซมันน์ , ชาบี พรีเอโต้, กอนซาโล่ กาสโตร - คาร์ลอส เวล่า
ผู้จัดการทีม : ฟิลิปป์ มงตานิเย่ร์



ทรรศนะ        
           "บาสก์ดาร์บี้่" หนนี้ "อารมณ์ล้วนๆอันดับไม่เกี่ยว" เพราะถ้าเทียบฟอร์มกันนาทีนี้ บิลเบา คงไม่สามารถเทียบชั้น
โซเซียดาด ที่ดีกว่าชัดเจนในแง่ของความคงเส้นคงวาตลอดสามเดือนจากการลงสนาม 15 นัดมีเพลี่ยงพล้ำให้กับ เรอัล มาดริด แชมป์เก่าเพียงหนเดียว ทำให้สิงห์เดิมพันหลายรายคงมีความคิดในใจว่า "เรต ปป เจ้าบ้านห่วย วางรองดีกว่า หนึ่งมุมน่าจะมี"

           ถึงกระนั้นก็ยังไม่ง่ายที่ พลพรรค "ชูรี่อูดิน" จะบุกมาเก็บสามแต้มหรือแม้กระทั้งหนึ่งคะแนนใน "บาสก์ดาร์บี้" แม้ว่า แอธ.บิลเบา จะรักษาความห่วยขั้นเทพได้คงเส้นคงวาตลอดทั้งซีซั่น แต่ทุกครั้งในศึกศักดิ์ศรี บิลเบา ก็มักงัดฟอร์มเก่งได้ทันเวลาในหลายๆหนจนรักษาความบริสุทธิ์ในการเจอกับ โซเซียดาด มาตลอด 8 ยก ที่ ซาน มาเมส (ชนะ 7 และเสมอไปอีก 1 ครั้ง (ยิงได้ 17 เสีย 3 * บิลเบา ไม่เสียประตู 5 นัด) ซึ่งหากมองในแมตช์ที่ ฆ่าได้หยามไม่ได้แบบนี้ น่าถือหางเจ้าถิ่นมากกว่า เพราะถ้าไม่ผิดจากที่เคยเป็น ไม่ได้ก็น่าจะเสียแค่มุมเดียวเท่านั้นสำหรับท่านต่อ


ฟันธง : ต่อ แอธ.บิลเบา ชนะ 2-1



"กูเกิล" ส่งโน้ตบุ๊คใหม่ปะทะ "แอ๊ปเปิ้ล"


   กูเกิลส่งโน้ตบุ๊คจอสัมผัส ท้าชนแมคบุ๊คของแอ๊ปเปิ้ล เล็งปล่อยซอฟต์แวร์ใหม่ชูเป็นทางเลือกนอกเหนือจาก "วินโดวส์8" ของไมโครซอฟท์



               


“โครมบุ๊ค พิกเซล” เป็นโน้ตบุ๊คระดับบนลูกผสมระหว่างแทบเล็ตและโน้ตบุ๊ค มาพร้อมหน้าจอระบบสัมผัสกอริลลา กลาส ขนาด 12.85 นิ้ว ที่มีความละเอียด 239 พิกเซลต่อนิ้วสัมผัส และระบบปฏิบัติการ “โครม โอเอส” ที่ทีมวิศวกรของกูเกิลบรรจงพัฒนาขึ้นเพื่อให้เป็นระบบปฏิบัติการพื้นฐานสำหรับโน้ตบุ๊ครุ่นต่อไปของบริษัท




                


โครมบุ๊ค พิกเซลแตกต่างจากโน้ตบุ๊ค และเน็ตบุ๊คของบริษัทอื่นที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน และประกาศชัดว่า จะชิงส่วนแบ่งตลาดจากโน้ตบุ๊คตระกูล “แมค” ของแอ๊ปเปิ้ล

                 เวบไซต์เทคโนโลยีกิกาโอเอ็ม กล่าวว่า รูปลักษณ์ของโครมบุ๊ค พิกเซล ดูดี แต่กูเกิลจะเจอปัญหาในการขาย และจำเป็นต้องทำราคาให้ขายได้ รวมถึงสร้างฐานนักพัฒนาเพื่อสินค้าระดับบนของตัวเอง

                 นักวิเคราะห์ของเอ็นเดอร์เลย์ กรุ๊ป เผยว่า โน้ตบุ๊คราคาสูงกว่า 600 ดอลลาร์ขายออกลำบาก แม้แต่แอ๊ปเปิ้ลก็ต้องกำหนดราคาแมคบุ๊คแอร์ของตัวเองไว้ที่ 999 ดอลลาร์ ขณะที่กระแสนิยมแทบเล็ตก็ยิ่งทำให้โน้ตบุ๊คขายยากมากขึ้น










โน้ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ของกูเกิลรุ่นนี้ จะวางตลาดในสหรัฐและอังกฤษเป็น 2 ประเทศแรก ในราคาเริ่มต้น 1,299 ดอลลาร์ พร้อมกันนี้ กูเกิล ยังมีแผนเปิดตัว“ควิกออฟฟิศ”ซอฟต์แวร์จัดการเอกสาร และตารางทำงานในอีก 3 เดือนข้างหน้า หลังจากผู้ใช้โน้ตบุ๊คโครมบ่นว่า มีปัญหาในการใช้โปรแกรมเวิร์ดและเอกเซลของไมโครซอฟท์

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

'เปโดร' ลั่น 'บาร์เซโลน่า' ไม่ได้หวังจะพึ่งแต่ 'เมสซี่'



    แม้ว่าดาวยิงทีมชาติสเปนของ บาร์เซโลน่า จะออกมากล่าวว่าต้นสังกัดของเขานั้น ไม่ได้หวังแต่จะพึ่งพาแต่ความสามารถของ ลิโอเนล เมสซี่ แต่เจ้าตัวก็ยังชมยอดดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์รายนี้ว่า เป็นเครื่องจักรถล่มประตูที่น่าเหลือเชื่อ หลังจากที่เขาสามารถทำประตูให้กับทีมไปแล้วกว่า 300 ลูก



  เปโดร โรดริเกซ ดาวยิงร่างเล็กของ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ยอดทีมจาก ลาลีกา สเปน ให้สัมภาษณ์ว่า ต้นสังกัดของเขาไม่ได้คิดจะพึ่งพาแต่ความสามารถของ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดดาวยิงของทีม ก่อนเกมที่ทัพ "อาซูลกราน่า" จะลงทำศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เกมแรก กับ เอซี มิลาน ในคืนวันพุธนี้

"เขามักจะเป็นคนที่แบกทีมไว้อยู่เสมอ ซึ่งถ้าหากว่าเขาเล่นไม่ได้ตามฟอร์มของตัวเอง คนอื่นก็จะเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทีมของเราก็แข็งแกร่งมากอยู่เหมือนกัน และผมก็ไม่เชื่อด้วยว่าทีมของเราพึ่งแต่ความสามารถของ เมสซี่" ดาวเตะวัย 25 ปี ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว

"เมสซี่ เป็นนักเตะคนหนึ่ง ที่มีเป้าหมาย และความทะเยอทะยานที่ยอดเยี่ยม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจินตนาการได้ เขาทำประตูได้อย่างมากมาย แล้วผมก็หวังว่าเขาจะยังคงทำต่อไปเรื่อย ๆ"

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

พรีวิวก่อนเตะ : ปืนรอเด็ดกุหลาบไฟ,ทอฟฟี่บุกนกเค้าแมว


   ศึกลูกหนังเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2012-2013 รอบ 5 ประจำวันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2556 มีลงสนามเตะฟาดแข้งกัน 4 คู่ 4 สนามดังนี้!ลูตัน ทาวน์ vs มิลล์วอลล์,มิลตัน คีนส์ ดอนส์ vs บาร์นสลี่ย์,อาร์เซน่อล vs แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ โอลด์แฮม แอธเลติก vs เอฟเวอร์ตัน ช่อง 7 ยิงสดในเวลา 01:00 น. 



บอลเอฟเอ คัพ

ฤดูกาล 2012-13

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2556



อาร์เซน่อล (EPL) vs แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (ชปช)

รอบ 5


      สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
      ความจุ : 60,355 ที่นั่ง
      ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน
      ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : P. Kirkup, S. Massey
      ผู้ตัดสินที่ 4 : เควิน เฟรนด์
      นักเตะที่น่าจับตามอง : ลูคัส โพดอลสกี้ vs จอร์แดน โร้ดส์ 
      ผลที่คาด : อาร์เซน่อล 2:1 แบล็คเบิร์น 
      เวลาเตะ : 22:00 น. 
      ถ่ายทอดสด : 
      อัตราต่อรอง : อาร์เซน่อล ต่อลูกครึ่งควบสอง
      ติดโทษแบน : คาร์ล เจนกินสัน (อาร์เซน่อล)
      บาดเจ็บ : อาร์เซน่อล>โธมัส แฟร์มาเล่น, แจ็ค วิลเชียร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่

      รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีมที่คาดว่าจะได้ลงสนาม 

      อาร์เซน่อล ระบบ 4-2-3-1 : วอยเชียค เชสนี่, บาการี่ ซานญ่า, แพร์ แมร์เตซัคเคอร์, อิ๊กนาซี่ มิเกล, นาโช่ มอนเรอัล, มิเคล อาร์เตต้า, อาบู ดิยาร์บี้, แชร์วินโญ่, โทมัส โรซิชกี้, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ลูคัส โพดอลสกี้

      แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ระบบ 4-4-2 : เจ็ค คีน(พอล โรบินสัน), แบร็ดลี่ย์ ออร์, สก็อตต์ แดนน์, แกรนท์ แฮนลี่ย์, มาร์ติน โอลส์สัน, มอร์เตน กัมส์ท-พีเดอร์เซ่น(ดีเจ แคมพ์เบลล์), แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์, เจสัน โลว์, มาร์คุสโอลส์สัน, โคลิน คาซิม-ริชาร์ดส์, จอร์แดน โร้ดส์ 



โอลด์แฮม แอธเลติก (ลีกวัน) -vs- เอฟเวอร์ตัน (EPL)

รอบ 5

      สนาม : บอนดารี่ ปาร์ค
      ความจุ : 10,638 ที่นั่ง
      ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาว
      ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : S. Bennett, M. McDonough
      ผู้ตัดสินที่ 4 : มาร์ติน แอ็ตกินสัน
      นักเตะที่น่าจับตามอง : แม็ตต์ สมิธ vs มารูยาน เฟลไลนี่ 
      ผลที่คาด : โอลด์แฮม 1:2 เอฟเวอร์ตัน 
      เวลาเตะ : 01:00 น.
      ถ่ายทอดสด : ช่อง 7
      อัตราต่อรอง : เอฟเวอร์ตัน ต่อลูกครึ่ง
      ติดโทษแบน : None
      บาดเจ็บ : เอฟเวอร์ตัน>โทนี่ ฮิบเบิร์ต, เชมัส โคลแมน

      รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีมที่คาดว่าจะได้ลงสนาม 

      โอลด์แฮม แอธเลติก ระบบ 4-4-1-1 : ดีน บูซานิส, รีเซ่ วาบาร่า, ฌอง-อีฟ เอ็มโวโต้, คลิฟฟ์ เบิร์น, โจนาธาน กราวนด์ส, ลี ครอฟต์, เจมส์ เวโซลอฟสกี้, ยูสซุฟ เอ็มชากาม่า, ร็อบบี้ ซิมพ์สัน, โฆเซ่ แบ็กซ์เตอร์, แม็ตต์ สมิธ

      เอฟเวอร์ตัน ระบบ 4-4-1-1 : ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล เนวิลล์, ฟิล จากีลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์, เควิน มิรัลลาส, ลีออน ออสแมน, ดาร์รอน กิ๊บสัน, สตีเว่น พีนาร์, มารูยาน เฟลไลนี่, นิกิช่า เยลาวิช(วิคเตอร์ อนิเชเบ้)

      โปรแกรมฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5 คู่อื่นๆที่เตะคืนนี้มีดังนี้ 

     เวลา 19.45 น. ลูตัน ทาวน์ vs มิลล์วอลล์ >>>>> มิลล์วอลล์ ต่อครึ่งลูก
     เวลา 22:00 น. มิลตัน คีนส์ ดอนส์ vs บาร์นสลี่ย์ >>>>> มิลตัน ต่อเสมอควบครึ่ง

วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

'บีย่า' ซวย หลังถูกส่งตัวเข้าโรงหมอ รักษาก้อนนิ่วในไต


       หัวหอกเลือดกระทิงดุวัย 31 ปีของ บาร์เซโลน่า ถึงกับต้องไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อรักษาอาการติดเชื้อในช่องท้อง ซึ่งอาการบาดเจ็บในครั้งนี้ส่งผลให้ดาวเตะรายนี้จะพลาดการลงสนามให้กับต้นสังกัด ในเกมที่ทีมของเขามีคิวที่จะพบกับ กรานาด้า ในวันเสาร์นี้



  สโมสร "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่า ดาบิด บีย่า ศูนย์หน้าของทีม ได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการรักษาอาการปวดที่นิ่วบริเวณท่อไต ซึ่งทำให้ดาวเตะรายนี้จะไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมของกุนซือ ตีโต้ บีลาโนบา ในเกมที่พวกเขาจะลงทำศึก ลาลีกา ในวันเสาร์นี้กับ กรานาด้า

หัวหอกชาวสแปนิชวัย 31 ปีรายนี้ถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เมื่อช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ผ่านมา และจะเข้ารับการดูแลเพื่อรักษาก้อนนิ่วในไตต่อไป ก่อนที่ทางต้นสังกัดจะออกมายืนยันอีกทีว่าดาวเตะรายนี้ น่าจะไม่สามารถลงเล่นให้กับทีมได้ในเกมสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งโดยปกติแล้วเขาก็พบกับความยากลำบาก ในการหาโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมในฤดูกาลนี้อยู่แล้ว

ทั้งนี้ ดาบิด บีย่า ลงเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า ไปแล้ว 15 เกมในฤดูกาลนี้ ทำประตูไปได้ทั้งสิ้น 5 ประตู แต่ยังไม่สามารถทำประตูในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีนี้ได้ ซึ่งทางด้านของทัพ "อาซูลกราน่า" ก็มีคิวที่จะพบกับ "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล -vs- เวสต์บรอมวิช



ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พูล (7) -vs- เวสต์บรอมวิช (9)



เวลา : 03.00
สนาม : แอนฟิลด์
ราคาบอล : ลิเวอร์พูล ต่อ ลูกครึ่งลบสิบ


ผลการพบกันของทั้งสองทีม

27-09-12 เวสต์บรอมวิช แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 ลีก คัพ
18-08-12 เวสต์บรอมวิช ชนะ ลิเวอร์พุล 3-0 พรีเมียร์ลีก
22-04-12 ลิเวอร์พูล แพ้ เวสต์บรอมวิช 0-1 พรีเมียร์ลีก
29-10-11 เวสต์บรอมวิช แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 พรีเมียร์ลีก
02-04-11 เวสต์บรอมวิช ชนะ ลิเวอร์พุล 2-1 พรีเมียร์ลีก
29-08-10 ลิเวอร์พูล ชนะ เวสต์บรอมวิช 1-0 พรีเมียร์ลีก
17-05-09 เวสต์บรอมวิช แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 พรีเมียร์ลีก
09-11-08 ลิเวอร์พูล ชนะ เวสต์บรอมวิช 3-0 พรีเมียร์ลีก
01-04-06 เวสต์บรอมวิช แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 พรีเมียร์ลีก
31-12-05 ลิเวอร์พูล ชนะ เวสต์บรอมวิช 1-0 พรีเมียร์ลีก


ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด

ลิเวอร์พูล

03/02/13 เสมอ แมนฯ ซิตี้ 2-2 เยือน / รอง 0.5 ... บวก
31/01/13 เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 เยือน / รอง 0.25 ... บวกครึ่ง
27/01/13 แพ้ โอลด์แฮม 2-3 เยือน เอฟเอ คัพ / ต่อ 1.75 ... เสีย
19/01/13 ชนะ นอริช 5-0 เหย้า / ต่อ 1.5 ... บวก
13/01/13 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 เยือน / รอง 0.5 ... เสีย
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 12 ชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 3 ได้ 22 เสีย 10 มี 21 แต้ม


เวสต์บรอมวิช

03/02/13 แพ้ สเปอร์ส 0-1 เหย้า / รอง 0.25 ... เสีย
31/01/13 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 1-2 เยือน
/ รอง 1.25 ... บวกครึ่ง
20/01/13 เสมอ แอสตัน วิลล่า 2-2 เหย้า / ต่อ 0.5 ... เสีย
16/01/13 แพ้ ควีนส์ปาร์ค 0-1 เหย้า เอฟเอ คัพ / ต่อ 0.75 ... เสีย
12/01/13 แพ้ เร้ดดิ้ง 2-3 เยือน / เสมอ ... เสีย

ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 12 ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 7 ได้ 15 เสีย 23 มี 11 แต้ม


ฟอร์ม 6 นัดล่าสุดในลีก

ลิเวอร์พูล
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 12 เสีย 0 มี 9 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 5 เสีย 6 มี 2 แต้ม

เวสต์บรอมวิช
เหย้า แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 3 เสีย 5 มี 1 แต้ม
เยือน แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 0 แพ้ 3 ได้ 3 เสีย 7 มี ไม่มีแต้ม



สถิติที่น่าสนใจ

 * ครั้งสุดท้าย ที่เวสต์บรอมวิช เอาชนะลิเวอร์พูล ได้ทั้งไปและกลับ ต้องย้อนไปถึงปี 1966-67
 * ลิเวอร์พูล ชนะในแอนฟิลด์ มา 3 เกมติดต่อกัน โดยไม่เสียประตู ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดนับตั้งแค่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2011
 * ลิเวอร์พูล ยังพลิกกลับมาชนะคู่แข่งไม่ได้เลย หากเกมไหนพวกเขาถูกขึ้นนำไปก่อน
 * อัลเบี้ยน ยังสะกดชัยไม่เจอเลยตลอด 6 เกมหลังสุด (เสมอ 1 แพ้ 5)


สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

      เบรนแดน ร็อดเจอร์ ต้องเช็กสภาพร่างกายของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ โดยละเอียดอีกครั้งว่าพร้อมากน้อยแค่ไหน ภายหลังที่เจ้าตัวเกิดเดี้ยงระหว่างเกมเจ๊าแมนฯ ซิตี้ 2-2 จนถอนตัวออกจากแมตช์กระชับมิตรทีมชาติเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นเดียวับ ราฮีม สตเอร์ลิง ที่ไม่อยู่ในโผ "สิงโตคำราม" ก็ฟิตกลับมาเป็นตัวเลือกตามเดิม ขณะที่ คูตินโญ่ จอมทัพป้ายแดง เคลียร์เอกสารกับทางต้นสังกัดเดิม (อินเตอร์ มิลาน) เสร็จเรียบร้อย และมาซ้อมกับลิเวอร์พูลได้แล้ว แต่ยังคงต้องรอเวลาปรับตัวอีกสักระยะ นอกนั้นกุนซือชาวไอแลนด์เหนือ ไม่มีปัญหาการจัดทัพเพิ่มเติมเข้ามา และคงยึดผู้เล่นชุดเดิมจากเกมเสมอแมนฯ ซิตีลงเล่นอย่างต่อเนื่อง

เช็กฟิต :
กองหน้า - แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (4 นัด 3 ประตู)

ตัวเจ็บ :
กองหลัง - มาร์ติน เคลลี่ (4 นัด), จอห์น เฟลเนแกน (-)

ตัวแบน : -
     โกรัน โปปอฟ แบ็กชาวมาซิโดเนีย จะติดโทษแบน 3 เกม โทษฐานถ่มน้ำลายใส่คู่แข่งในเกมที่แล้ว คาดว่า สตีฟ คลาร์ก จะส่ง เลียม ริดจ์เวลล์ ลงไปปักหลักแทน ส่วนแดนกลาง ทีมเยือนจะได้ ยุสซุฟ มูลุมบู กลับมาคุมเกมได้อีกครั้ง หลังจากหายหน้าไปตั้งแต่วันขึ้นปีใหม่ เพราะเจ็บเข่า ด้านตำแหน่งหัวหอกตัวเป้า ต้องชั่งใจว่ากุนซือชาวสกอตต์ จะดรียกใช้บริการ ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ กองหน้าเจ้าปัญหาคืนทีมหรือไม่ หลังจากเจ้าตัวีปัญหาเรื่องย้ายสังกัด จนถูกสโมสรสั่งแบนในเกมพ่ายสเปอร์ส นอกนั้น คลาร์ก ไม่ค่อยมีเรื่องให้ต้องกังวล ยกเว้นหน้าเดิมที่เจ็บอยู่ก่อนหน้าอย่าง จอร์จ ธอร์น และโซลตัน เกร่า
ตัวแบน :
กองหลัง : โกรัน โปปอฟ

ตัวเจ็บ : -
กองกลาง - จอร์จ ธอร์น (5 นัด), โซลตัน เกร่า (16 นัด 4 ประตู)

เช็กฟิต : -

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
  
     ลิเวอร์พูล (4-3-3) : โฆเซ่ เรน่า ; เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ ; สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ลูคัส, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ; หลุยส์ ซัวเรซ, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, สจวร์ต ดาวนิ่ง

     เวสต์บรอมวิช (4-4-1-1) : เบน ฟอสเตอร์ ; บิลลี่ โจนส์, แกเร็ธ แม็คออลี่, โยนัส โอลส์สัน, เลียม ริดจ์เวลล์ ; ยุสซุฟ มูลุมบู, เคลาดิโอ ยาค็อบ ; คริส บรันท์, เจมส์ มอร์ริสัน, เกรแฮม ดอร์แรนส์ ; โรเมโล ลูกากู
  
 วิเคราะห์ / ฟันธง
 
         "หงส์แดง" เครื่องแรงได้ที่ หากมองจากคู่แข่งที่เขาเผชิญหน้ามา และได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด จริงๆ สองเกมหลังสุดกับ อาร์เซน่อล และแมนฯ ซิตี้  "ลิเวอร์พูล ต้องกวาด 6 คะแนนเต็มเข้ากระเป๋า แต่แนวรับมานัดกันพลาดอย่างน่าเขกกะโหลก จึงเชื่อว่าถ้าทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ยังรักษามาตรฐานจากสองนัดดังกล่าวไว้ได้ การเก็บชัยเหนือเวสต์บรอมวิช คู่แข่งซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหารอบด้าน ก็คงไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งการได้ สเตอร์ริดจ์ เข้ามาเสริมแนวรุก ทำให้การผลิตสกอร์ของเจ้าบ้านไหลลื่นขึ้นอย่างทันตา อีกทั้ง "หงส์แดง" สุมไฟแค้นไว้เต็มอก หลังจากเคยพ่าย "เดอะ แบ็กกี้ส์" มาในนัดเปิดสนาม 0-3 จึงเป็นโอกาสดีสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่จะเอาคืนทบต้นทบดอก เพราะโมเมนตั้มของอาคันตุกะกำลังแกว่งเป็นลูกตุ้ม บวกกับผลงานนอกบ้านที่เชียร์ไม่ขึ้น (พ่ายไป 5 จาก 7 เกมหลัง) ดังนั้นภาพรวมเจ้าบ้านกินขาด เรท "ลูกครึ่ง" ต่อไปก่อน มองจากแนวโน้มน่าจะยิงขาด


ผลบอลที่คาด : 
ลิเวอร์พูล เข้าวิน 2-0

ระดับความมั่นใจ : 8/10


"มู"เชื่อ ราชันปะทะผีคือแมทช์ที่โลกตั้งตารอ




   นายใหญ่ชาวโปรตุกีส เชื่อว่า เกมระหว่างราชันชุดขาวกับปีศาจแดงในฟุตบอลยุโรป คือแมทช์ที่ผู้คนทั่วโลกกำลังตั้งตารอ



    โชเซ มูรินโญ กุนซือจอมเฮี้ยบมั่นใจว่า การเผชิญหน้ากันระหว่างเรอัล มาดริด กับแมนฯ ยูไนเต็ด คือแมทช์ที่ผู้คนทั่วโลกกำลังรอคอย ในระหว่างที่เจ้าตัวเดินทางมาซุ่มดูฟอร์มเร้ด เดวิลส์ในเกมที่เชือดเอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

    โดยราชันชุดขาวจะเปิดถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาเบว รับการมาเยือนของปีศาจแดง ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก วันพุธนี้ ซึ่งดิ โอนลี วัน ก็เชื่อว่า มันจะเป็นการแข่งขันที่สุดยอดที่ดึงดูดทุกสายตาทั่วโลกให้จับจ้องมาที่เกมนี้

    "นี่คือเกมที่โลกกำลังรอคอย ผู้คนทั่วไปคิดว่าเราต้องรู้สึกกดดันเพราะต้องมีทีมใหญ่กระเด็นตกรอบไปหนึ่งทีม" อดีตเทรนเนอร์เชลซี เผยกับ MUTV

    "แต่มันไม่ใช่เลย มันเป็นแมทช์ที่พวกเราต้องการและแฟนบอลเองก็ไม่ต้องไปคิดถึงเกมคู่อื่นเลย ผมหวังว่าเราจะตอบแทนที่สิ่งที่พวกเขาตั้งตารอได้"

    ขณะเดียวกัน อดีตผู้จัดการทีมอินเตอร์ยังเผยว่า เขายังให้ความเคารพต่อเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กุสันเสมอ และพวกเขายังคงมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

    "ผมรู้สึกพิเศษมากเพราะเฟอร์กี้เป็นบุคคลสำคัญในโลกฟุตบอล และที่สำคัญเขาเป็นคนดีอีกด้วย" มูรินโญ่กล่าวเสริม

    "ผมยังคงมีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับเขา และผมก็ภูมิใจกับสิ่งนี้มาก เราเคยปะทะฝีมือกันมาหลายต่อหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่สมัยผมคุมปอร์โต, เชลซี, อินเตอร์ และคราวนี้ก็เป็นมาดริด บางครั้งผมก็ชนะ บางครั้งผมก็แพ้ และบางครั้งพวกเราก็เสมอกัน"

    "แน่นอนว่าผมต้องการชนะและเขาก็เช่นกัน แต่ผมเชื่อว่าผู้แพ้ก็จะมีความสุขปะปนอยู่กับความผิดหวังเพราะพวกเราเป็นเพื่อนกัน"

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

พรีวิว พรีเมียร์ลีก : เซาธ์แฮมป์ตัน - แมนฯ ซิตี้

       "เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่" กุนซือใหม่ของ "เซาธ์แฮมป์ตัน" ต้องเจอกับอีกหนึ่งงานหนัก เมื่อในเกมนี้พวกเขาต้องเปิดบ้านรับทีมอันดับ 2 อย่าง "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ที่สภาพทีมในตอนนี้ใกล้สมบูรณ์เต็มที

พรีวิว ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556


เซาธ์แฮมป์ตัน -vs- แมนฯ ซิตี้

เวลา 00.30 น.
สนาม : เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม
 
สภาพความพร้อม : เซาธ์แฮมป์ตัน 
 
เกมนัดนี้ "นักบุญ" อาจจะต้องเจอกับปัญหาใหญ่ เมื่อสามนักเตะตัวหลักอย่าง เนธาเนี่ยล ไคลน์, ลุค ชอว์ และ แกสตัน รามิเรซ ต่างมีปัญหาอาการบาดเจ็บ จนต้องถอนตัวจากเกมกับทีมชาติในกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือป้ายแดง อาจจะต้องรอเช็คฟิตของทั้งสามจนนาทีสุดท้าย นอกจากนั้นแล้ว เกมนี้พวกเขาก็ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน กูลี่ โด ปราโด้ กับทาง โชเซ่ ฟอนเต้ แต่ทว่าก็ยังมีข่าวดีเมื่อ เอ็มมานูเอล มายูก้า กองหน้าตัวสำรอง พร้อมเป็นตัวเลือกในเกมนี้ หลังจากที่นักเตะบินกลับมาจากการรับใช้ทีมชาติในศึกแอฟริกัน ฯ
 
สภาพความพร้อม : แมนฯ ซิตี้
 
"เรือใบสีฟ้า" สภาพทีมดูดีเป็นอย่างมาก จากการที่ทั้ง แว็งซ็องต์ กอมปานี ปราการหลังกัปตันทีม กับทาง ไมค่อน แบ็กขวาชาวบราซิเลี่ยน ต่างหายเจ็บกลับมา และพร้อมลงเล่นในเกมนี้ นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังได้ห้องเครื่องคนสำคัญอย่าง ยาย่า ตูเร่ กลับมาจากศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ เช่นเดียวกับในรายของ โคโล ตูเร่ แต่ทว่าก็ยังมีอยู่หนึ่งนักเตะที่พวกเขาไม่สามารถใช้งานได้คือทางด้านของ ไมก้า ริชาร์ด ปราการหลังชาวอังกฤษ
 
สถิติที่น่าสนใจ
 
-  เรือใบสีฟ้า บุกมาเยือน นักบุญ แล้วทั้งหมด 38 เกม โดยมีสถิติชนะ 10 เสมอ 10 แพ้ 18 ยิงได้ 43 ลูก เสีย 57 ลูก
- แต่ทว่าถ้านับเฉพาะในเกมลีก 9 เกมหลังสุดที่ ซิตี้ บุกมาเยือนที่นี้ พวกเขาแพ้ออกไปเพียง 1 เกมเท่านั้น คือเมื่อฤดูกาล 2002-2003 ซึ่งเกมนั้นพวกเขาแพ้ไป 2-0
- ส่วนอีก 8 เกมที่เหลือ ซิตี้ เก็บชัยไปได้ถึง 5 เกม
- ในลีกฤดูกาลนี้ นักบุญ ลงเล่นเป็นเจ้าบ้านไปแล้ว 12 เกม มีเพียง 3 เกมเท่านั้นที่พวกเขาไม่เสียประตูให้คู่แข่ง
- โดยทั้ง 12 เกมของพวกเขา มีสถิติชชนะ 3 เสมอ 5 แพ้ 4 ยิงได้ 15 เสีย 14
- ส่วน ซิตี้ พวกเขาลงเล่นในฐานะทีมเยือนแล้วทั้งหมด 12 เกม ชนะเจ้าบ้านไปได้ถึง 6 เกม แพ้ไปเพียง 1 เกมเท่านั้น แต่ทว่าก็มีถึง 4 เกมที่พวกเขาไม่สามารถทำประตูเจ้าบ้านได้
- ฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่เก็บคลีนชีทได้มากที่สุดที่ 11 นัด
- นี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่จบฤดูกาล 2010-2011 ที่ แมนฯ ซิตี้ มีคะแนนตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ห่างถึง 9 คะแนน
- ริคกี้ แลมเบิร์ต กองหน้าตัวเก่งของ นักบุญ เป็นผู้เล่นอังกฤษที่ยิงได้มากที่สุดในฤดูกาลนี้ โดยเขาซัดให้กับทีมไปแล้ว 11 ลูก และนับรวมถึงตอนนี้ เจ้าตัวยิงให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ไปแล้วถึง 99 ประตู
 
ผลงาน 5 นัดหลังสุด : เซาธ์แฮมป์ตัน (ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 1)
 
2 กุมภาพันธ์ 2556  | พรีเมียร์ลีก |  วีแกน 2-2 เซาธ์แฮมป์ตัน
30 มกราคม 2556   | พรีเมียร์ลีก |  แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 เซาธ์แฮมป์ตัน
21 มกราคม 2556   | พรีเมียร์ลีก |  เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 เอฟเวอร์ตัน
16 มกราคม 2556   | พรีเมียร์ลีก |  เชลซี 2-2 เซาธ์แฮมป์ตัน
12 มกราคม 2556   | พรีเมียร์ลีก |  แอสตัน วิลล่า 0-1 เซาธ์แฮมป์ตัน
 
ผลงาน 5 นัดหลังสุด : แมนฯ ซิตี้ (ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 0)
 
3 กุมภาพันธ์ 2556  | พรีเมียร์ลีก |  แมนฯ ซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูล
29 มกราคม 2556   | พรีเมียร์ลีก |  ควีนส์ปาร์ค 0-0 แมนฯ ซิตี้
26 มกราคม 2556   | เอฟเอ คัพ |  สโต๊ค 0-1 แมนฯ ซิตี้
19 มกราคม 2556   | พรีเมียร์ลีก |  แมนฯ ซิตี้ 2-0 ฟูแล่ม
13 มกราคม 2556   | พรีเมียร์ลีก |  อาร์เซน่อล 0-2 แมนฯ ซิตี้
 
ผลงานการเจอกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
 
19 กุมภาพันธ์ 2555  | พรีเมียร์ลีก |  แมนฯ ซิตี้ 3-2 เซาธ์แฮมป์ตัน
28 มกราคม 2550    | เอฟเอ คัพ |  แมนฯ ซิตี้ 3-1 เซาธ์แฮมป์ตัน
1 มกราคม 2548      | พรีเมียร์ลีก |  แมนฯ ซิตี้ 2-1 เซาธ์แฮมป์ตัน
2 มกราคม 2547      | พรีเมียร์ลีก |  เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 แมนฯ ซิตี้
17 มกราคม 2547    | พรีเมียร์ลีก |  แมนฯ ซิตี้ 1-3 เซาธ์แฮมป์ตัน
 
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
 
เซาธ์แฮมป์ตัน (4-2-3-1) : อาร์เทอ์ร โบรุช -  เนธาเนี่ยล ไคลน์, มายะ โยชิดะ, ยอส ฮุยเฟลด์, ลุค ชอว์ - มอร์กก็อง ชนิแดร์แล็ง, แจ็ค คอร์ค - เจสัน ปันเชียน, แกสตัน รามิเรซ, เจย์ โรดริเกซ  - ริคกี้ แลมเบิร์ต
 
ผู้จัดการทีม : เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
 
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, มาติย่า นาสตาซิช, แว็งซ็องต์ กอมปานี, กาแอล กลิชี่ - แกเร็ธ แบร์รี่, ฆาบี การ์เซีย - ดาบิด ซิลวา, ยาย่า ตูเร่, เซร์คิโอ อเกวโร่ - เอดิน เชโก้ 
 
ผู้จัดการทีม : โรแบร์โต้ มันชินี่
 
ผลที่คาด : เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 แมนฯ ซิตี้